พื้นลามิเนต

พื้นลามิเนต (Laminate Flooring) คือ วัสดุปูพื้นสังเคราะห์ที่ทำสีกับลายเลียนแบบพื้นไม้ธรรมชาติ ผลิตจากการอัดเส้นใยไม้หรือเศษไม้ผสมกาวเรซิ่น ด้วยกระบวนการใช้ความร้อนและความดันสูง ให้เป็นแผ่นไม้ลามิเนตที่แข็งแรง ทนทาน สวยเหมือนไม้จริง แต่ราคาถูกกว่า

S.J.Sourcing เราจำหน่าย พื้นลามิเนต สำหรับปูในบ้าน คอนโด ออฟฟิศ หรือพื้นที่ร้านค้า มีลายไม้ให้เลือกหลากหลายอย่างลายไม้สักและไม้โอ๊ค ผลิตจากวัสดุที่ทนต่อความชื้นกับความร้อน ทั้งแบบความหนา 12 มม. และแบบ 8 มม. เกรดการใช้งานตั้งแต่ AC3 ถึง AC5 พร้อมสินค้าตัวอย่างให้ลูกค้าพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

โครงสร้างของพื้นลามิเนต

1. Wear Layer (ชั้นผิวหน้า) ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน การกระแทก และความชื้น
2. Decorative Layer (ชั้นลวดลาย) ชั้นลวดลายเลียนแบบพื้นไม้จริง ด้วยกระบวนการพิมพ์ลาย ก่อนนำไปอัดเข้ากับชั้นแกนกลาง
3. Core Layer (ชั้นแกนกลาง) ทำจากแผ่น HDF หรือ MDF วัสดุประสานเส้นใย มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ดี
4. Back Layer (ชั้นล่างสุด) หน้าที่ป้องกันความชื้นจากพื้นผิวด้านล่าง และช่วยรักษาสภาพให้แผ่นพื้นไม่งอหรือหักง่าย
5. Click Lock การติดตั้งแบบคลิ๊กล็อค รอยต่อเรียบสนิท ไม่ต้องทากาว

คุณสมบัติของพื้นลามิเนต

• แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี
• ทนรอยขีดข่วนและแรงกระแทก
• กันน้ำกันความชื้นได้ระดับหนึ่ง
• ทนความร้อนดีกว่าไม้จริง
• ติดตั้งง่าย ด้วยระบบคลิกล็อค เชื่อมต่อแผ่นได้สนิท
• ลายสวยเหมือนไม้จริง มีหลายดีไซน์ให้เลือก
• ดูแลทำความสะอาดง่าย

ข้อดีของพื้นลามิเนต

• ราคาถูกเมื่อเทียบกับไม้จริง พื้นลามิเนตราคาถูกกว่าไม้ธรรมชาติประมาณครึ่งหนึ่ง โดยคุณภาพไม่ได้ด้อยกว่ามาก
• ติดตั้งง่าย สะดวก เร็ว ระบบติดตั้งแบบคลิกล็อคเข้าเดือย ทำให้พื้นลามิเนตเชื่อมต่อแผ่นกันได้แน่นสนิท เรียบ ไม่นูนหรือหลุดง่าย และไม่ต้องใช้กาวยึดติด
• ทนต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทก เพราะชั้นผิวหน้ามีส่วนผสมของเมลามีนเรซินและอลูมิเนียมออกไซด์ ช่วยให้พื้นไม้ลามิเนตทนรอยขูดขีดได้ดี แข็งแรง ยืดหยุ่น ไม่แตกร้าวง่าย
• ทนน้ำ/ความชื้นได้ดี กันน้ำและความชื้นได้ดีกว่าไม้จริง มีส่วนประกอบของเรซินกับขี้เลื่อยที่ช่วยให้โครงสร้างแน่น สามารถกันน้ำหกโดนได้ชั่วขณะ แต่ควรรีบเช็ดทำความสะอาด เพราะความชื้นอาจแทรกเข้าไปทำลายเนื้อพื้นได้
• ทนความร้อน พื้นลามิเนตทนความร้อนได้สูงกว่าไม้ธรรมชาติ 75-80 องศา ไม่บิดงอหรือเสียรูปเมื่อโดนความร้อน บริเวณพื้นที่แสงแดดส่องสามารถปูได้
• มีสีและลายให้เลือกหลากหลาย มีลายเลียนแบบไม้ธรรมชาติ ทั้งไม้ดำ ไม้สัก ไม้เชอรี่ และลายไม้หลากหลายให้เลือก ตอบโจทย์ทุกสไตล์การตกแต่ง
• ดูแลรักษาง่าย แค่ใช้ผ้าหมาดๆ หรือไม้ถูพื้นผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดฝุ่นและคราบสกปรกเป็นประจำ ไม่ต้องลงน้ำยาขัดถู ไม่ต้องขัดเงา

เทียบ พื้นลามิเนต กับวัสดุปูพื้นชนิดอื่น

พื้นลามิเนตยี่ห้อไหนดี? วิธีเลือกซื้อ

ค่า AC Rating และระดับความทนทาน

แผ่นพื้นลามิเนตมีการแบ่งระดับความทนทานมาตรฐาน ที่เรียกว่า AC Rating ตั้งแต่ AC1 ถึง AC5 โดยเลขยิ่งสูงก็ยิ่งทนทานมากขึ้นไปด้วย แนะนำเลือกค่า AC ให้เหมาะกับสถานที่ติดตั้ง ตามนี้

• AC1-2 เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานน้อย เช่น ห้องนอน
• AC3 ใช้ได้ทั่วไป เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก
• AC4-5 สำหรับพื้นที่สาธารณะที่คนเดินผ่านเยอะ ๆ เช่น ร้านค้า สำนักงาน

ความหนาของแผ่นไม้ลามิเนต (8-12 mm)

พื้นลามิเนตมีความหนาตั้งแต่ 6-14 mm ถ้าใช้ในบ้านทั่วไป ไม่มีคนเดินผ่านมาก 8-10 mm ก็พอค่ะ แต่พื้นที่ที่การสัญจรเยอะ ต้องการความแข็งแรงมากกว่านี้ ก็แนะนำเลือก 12-14 mm เพราะยิ่งพื้นหนาก็จะรับน้ำหนักได้มาก ทนทานกว่า แต่ราคาก็สูงขึ้นตาม

สีและลาย

ไม้ลามิเนตมีสีกับลายให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ไม้สีเข้ม สีอ่อน ลายไม้เสี้ยนตามธรรมชาติ หรือลายหินอ่อน ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมแนะนำเลือกสีกับลายให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งในบ้าน โทนสีเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงแสงสว่างและขนาดของห้องด้วย

ราคาพื้นไม้ลามิเนตต่อตารางเมตร

ราคาพื้นลามิเนตจะแตกต่างกันตามความหนา ค่าความทนทาน ลาย และแบรนด์ ทั่วไปประมาณ 200-1,000 บาทต่อตารางเมตร ถูกกว่าไม้จริงมาก สำหรับลามิเนตเกรดปานกลางที่ส่วนมากใช้กันจะราคา 400-600 บาทต่อตารางเมตร ส่วนแผ่นพื้นลามิเนตหนา 12 mm ขึ้น ก็จะแพงกว่า 800 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปค่ะ

ขั้นตอนการติดตั้งพื้นลามิเนต

1. เตรียมพื้นผิวให้เรียบ สะอาด ไม่มีฝุ่นผง เศษขยะ หรือความชื้นตกค้าง
2. วางแผ่นโฟมรองพื้น พลาสติกกันความชื้น หรือแผ่นรองลามิเนต ตามความเหมาะสม
3. เว้นร่องกันขยายตัวระหว่างแผ่นพื้นกับผนัง ประมาณ 8-12 mm
4. วางแถวแรกโดยจัดเรียงลิ้นล็อคให้หันไปทางผนัง ใช้ค้อนยางค่อย ๆ เคาะให้แผ่นชิดกัน
5. ต่อแถวถัดไปโดยวางสลับฟันปลาครึ่งแผ่น เพื่อกระจายรอยต่อ ไม่ให้ตรงกันเป็นแนว
6. ปูพื้นลามิเนตแถวสุดท้าย ต้องวัดและตัดแผ่นให้พอดีกับพื้นที่ที่เหลือ และค่อย ๆ ดันเข้าล็อคให้แน่น
7. ปิดจบด้วยบัว/ตัวจบผนัง เก็บงานให้เรียบร้อย

ข้อระวังการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต

• ระวังปูชิดกับผนังหรือวัตถุอื่นมากเกิน ควรเว้นระยะให้พื้นขยายตัวตามอุณหภูมิได้
• ควรให้ช่างติดตั้งกรณีพื้นผิวไม่เรียบ มีสิ่งกีดขวาง หรือต้องเจาะ ตัด แผ่นพื้นในจุดที่ซับซ้อน
• แผ่นลามิเนตที่ต้องตัดแต่งเข้าล็อค เช่น บริเวณมุม บันได หรือเสา ควรปรึกษาช่างค่ะ

ปูพื้นลามิเนต | ขั้นตอนง่าย ๆ ทำเองได้ สำหรับมือใหม่และมืออาชีพ!

การดูแลรักษาพื้นลามิเนต

• ทำความสะอาดด้วยการกวาด หรือดูดฝุ่นเป็นประจำ
• ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนเช็ด ห้ามถูพื้นที่เปียกชื้น
• ถ้ามีคราบฝังแน่น ให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณนั้นเบา ๆ ห้ามขัดถูแรง ๆ
• ไม่ใช้สารเคมีรุนแรง เช่น น้ำยาขัดพื้น แว็กซ์เคลือบเงา บนพื้นลามิเนต
• เลี่ยงการใช้ของแข็ง ของมีคม ขูดขีด หรือกระแทกพื้นโดยตรง
• ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นพลาสติกหรือผ้าสักหลาด ป้องกันรอยขีดข่วน

ข้อระวังการดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนต

• ถ้าพื้นเปียกน้ำ ควรรีบเช็ดให้แห้งทันที ไม่ปล่อยทิ้งไว้เกิน 1 ชั่วโมง เพราะความชื้นอาจซึมเข้าชั้นเนื้อไม้ได้
• ไม่วางของร้อนจัดลงบนพื้นโดยตรง เพราะอาจทำให้สีซีดจาง ผิวหน้าไหม้เป็นรอยได้
• ไม่แนะนำให้ปูพื้นลามิเนตกลางแจ้ง ความร้อนกับรังสี UV จะเร่งให้พื้นเสื่อม และสีซีดจางเร็วกว่าปกติ
• เลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์ หรือวัตถุหนัก ๆ บนพื้นโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน หรือพื้นเป็นริ้วได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ พื้นลามิเนต

เลือกซื้อ พื้นลามิเนต (Laminate Flooring)